ปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพทั้งของรัฐและบุคคลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเทคโนโลยีการดูแลสุขภาพที่สามารถเฝ้าระวังและปรับแต่งเฉพาะบุคคลมีราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น ควบคู่ไปกับความสนใจในสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มาตรการสร้างเสริมสุขภาพ เครดิตสุขภาพ จึงเป็นเครื่องมือที่สามารถนำมาใช้งานได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ
เครดิตสุขภาพ ตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานของสังคม ดังนี้
1. การแก้ปัญหาสังคมโดยตรง
-
- เข้าถึงการรักษาพยาบาลและการป้องกันโรคได้ง่ายขึ้นและทั่วถึง
- ลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ
- ช่วยคนที่มีรายได้น้อยเข้าถึงการประกันสุขภาพ
2. ผลกระทบเชิงบวก
-
- จำนวนคนที่เข้าถึงการรักษาเพิ่มขึ้น
- อัตราหายจากโรคหรือระยะโรคสงบ (Disease remission)
- สร้างระบบสุขภาพที่ยั่งยืน
3. ความต้องการของสังคม
-
- สุขภาพเป็นสิทธิพื้นฐานของมนุษย์
- ปัญหาค่ารักษาพยาบาลสูงเป็นปัญหาสำคัญ
- การป้องกันโรคช่วยลดต้นทุนระยะยาว
กินอยู่ดีแพลตฟอร์ม ออกแบบและพัฒนาระบบเครดิตสุขภาพ (Health Credit) เพื่อปฏิวัติระบบการดูแลสุขภาพของประชาชน โดยใช้มาตรการจูงใจให้มีการดำรงวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง นำไปสู่ชุมชนที่มีสุขภาพดีขึ้นและลดภาระในระบบสุขภาพของรัฐ และเป็นโมเดลที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ให้สอดคล้องกับลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคลซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ได้ในหลายภาคส่วน ทำให้เป็นโอกาสสำหรับรัฐในการส่งเสริมมาตรการป้องกันสุขภาพ อันจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพในระยะยาว ทั้งในระดับบุคคลและภาครัฐ Health Credit Score สามารถคำนวณได้ตามสมการ
Health Credit Score = Base Score − Z × Individual Risk Score − (1−Z) × Collective Risk Score
โดยที่
-
- Base Score คือ คะแนนพื้นฐานที่กำหนดไว้ (เช่น 100)
- Individual Risk Score คือ คะแนนความเสี่ยงจากแบบจำลอง Risk Score ของบุคคลนั้น
- Collective Risk Score คือ คะแนนความเสี่ยงเฉลี่ยของกลุ่มประชากร
- Z คือ Credibility factor จาก Credibility Theory
เบี้ยประกันสุขภาพ สามารถคำนวณจาก Health Credit Score
Premium = Base Premium × Adjustment Factor
โดยที่
-
- Adjustment Factor = exp(α x 100- Health Credit Score/100)
- α คือ พารามิเตอร์ที่ควบคุมความไวของการปรับเบี้ยประกัน